แผ่นตัดหรือใบตัดเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับตัดวัสดุโลหะและอโลหะจำพวกเหล็ก,กระเบื้อง,คอนกรีตกระจก,สแตนเลส,ทองแดง,อลูมิเนียม เป็นต้น มีลักษณะเป็นแผ่นทรงกลม ผลิตจากเม็ดทรายเกรดพิเศษ ซึ่งแผ่นตัดจะมีความคม แข็งแรงทนทาน ไม่แตกหักง่ายขณะตัดงาน จึงทำให้ตัดงานได้รวดเร็วแม่นยำและทำให้ผิวหน้าของชิ้นงานมีความเรียบสวย

นอกจากจะเลือกเครื่องตัดที่ดีแล้ว การเลือกแผ่นตัดก็ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะแผ่นตัดที่สัมผัสกับวัตถุโดยตรง หากเครื่องตัดคุณภาพดีแต่แผ่นตัดคุณภาพไม่ดี ชิ้นงานที่ออกมาก็จะไม่สวยงาม สภาพชิ้นงานไม่ดี ซึ่งแผ่นตัดโดยทั่วไปจะมีหลายขนาด ตั้งแต่ 4นิ้วขึ้นไปซึ่งจะมีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป

การเลือกใช้แผ่นตัดให้ถูกวิธี

ก่อนอื่นต้องดูวัสดุที่ต้องการตัด หากต้องการตัดเหล็กหรือสแตนเลส ให้ใช้แผ่นตัดเหล็กหรือสแตนเลส และหากต้องการตัดกระจกให้ใช้แผ่นตัดกระจก หลังจากนั้นให้เลือกขนาดที่เหมาะสมกับชิ้นงาน และ อุปกรณ์

• แผ่นตัด 4 นิ้ว เหมาะสำหรับตัดงานชิ้นเล็ก ไม่เหมาะสำหรับกับงานชิ้นใหญ่เพราะจะทำให้แผ่นแตกง่ายอันตรายต่อผู้ใช้งาน

• แผ่นตัด 7 นิ้ว เหมาะสำหรับงานกลาง และไม่ใหญ่มาก

• แผ่นตัด 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว นิยมเอาไปใส่แท่นตัดเล็ก จะตัดได้ตั้งแต่งานเล็กๆจนไปถึงงานใหญ่ ที่เหมาะสมกับขนาดขนาดของใบตัด

ทำความเข้าใจกับมาตรฐานใบตัดและแผ่นตัด ว่าเป็นอย่างไร?

 

 

เช่น แผ่นตัด 4’’ ที่มีมาตรฐาน A60SBF มีความหมายดังนี้

A = อลูนิเนียม อ๊อกไซด์ (Aluminum oxide) (ประเภทวัสดุ)

60 = เม็ดทรายปานกลาง คม เหมาะสำหรับงานเจียรทั่วไป(ขนาดของเม็ดกรวด)

S = แข็ง (ลำดับความแข็งของแผ่นตัด)

BF = Retinoid Bondเป็นตัวประสานที่นิยมกันมาก เหมาะกับงานเจียรหนัก งานที่มีความละเอียดของผิว เป็นต้น

ขนาดของแผ่นตัด

แผ่นตัดเหล็กไต้หวัน (KOVET) 4’’ ขนาด 105x1.2x16มม. หมายความว่า เส้นผ่านศูนย์กลางของแผ่นตัด (105มม.) x ความหนาของแผ่นตัด (1.2มม.) x เส้นผ่านศูนย์กลางของรูแผ่นตัด (มม.)

 

 

แผ่นตัดหรือใบตัด KOVET 4” เป็นแผ่นตัดที่ได้ถูกพัฒนาออกแบบให้สามารถตัดเหล็กกล้า เช่น สแตนเลส ท่อเหล็ก เหล็กหล่อเหล็กคาร์บอน หรืออัลลอยด์ ซึ่งตัวแผ่นทาจากอลูมิเนียมอ๊อกไซด์สีน้ำตาล มีมาตรฐานทั้งความคม ตัดได้เรียบ และเนื้อแผ่นเรียบเสมอกัน รูแกนกลางได้มาตรฐานไม่ทำให้แผ่นสั่นเมื่อทำงานกับเครื่องเจียร์ / ตัด หรือแท่นตัดที่ได้มาตรฐาน